เงินเฟ้อกันทั้งโลก แต่ทำไมจีนเงิน ‘ไม่เฟ้อ’?

  • Year: 2022
  • Project: เงินเฟ้อกันทั้งโลก แต่ทำไมจีนเงิน ‘ไม่เฟ้อ’?
  • Business Unit: Content

ช่วงนี้ถ้าใครตามข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ ก็จะเห็นข่าวซ้ำๆ จากประเทศต่างๆ ว่า เงินเฟ้อที่สุดในรอบ 20 ปีบ้าง 30 ปีบ้าง 40 ปีบ้าง ซึ่งเงินมันก็เฟ้อกระหน่ำจริงๆ จนบีบให้ธนาคารกลางหลายประเทศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อทำให้เงินหยุดเฟ้อ (เขาเชื่อกันว่าแนวทางการยุติเงินเฟ้อที่ถูกที่ควรคือการขึ้นดอกเบี้ย แต่ทำไมเชื่อกันงี้ คงต้องอธิบายยาว)

เรียกได้ว่าโลกจะกลับคืนสู่ปกติไม่ได้ง่ายๆ โควิดหมดแล้ว ยังต้องเจอเงินเฟ้อต่อ

ทีนี้ มันมีประเทศหนึ่งที่เราจะไม่ได้ยินข่าวว่าเงินเฟ้อเลย นั่นก็คือจีนเพราะเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เงินเฟ้อของจีนในรอบปีแค่ราวๆ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ต่างจากชาติตะวันตกที่ในเดือนเดียวกัน เงินเฟ้อทะลุ10 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว

ก็ต้องเข้าใจว่านี่ก็คือเรตเงินเฟ้อปกติของจีนในรอบประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา พูดง่ายๆ คืออะไรก็ตามที่ทำให้เงินเฟ้อกันทั้งโลก ตอนนี้มันแทบจะทำอะไรจีนไม่ได้เลย

ทำไมจีนถึงรอด? อันนี้ต้องเข้าใจรากฐานของเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นก่อน

เงินเฟ้อรอบนี้มี 2 ปัจจัยใหญ่ๆ ปัจจัยแรกคือ พอเศรษฐกิจเป็นปกติ คนต้องการกลับมาบริโภค แต่ของที่ผลิตมีไม่พอเพราะการผลิตมันติดขัดช่วงล็อกดาวน์ ราคามันก็ขึ้นตามกลไกราคา 

ปัจจัยที่สองคือ น้ำมันขึ้นราคามาอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัย (ปัจจัยล่าสุดคือการคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่) พอน้ำมันขึ้นราคา ต้นทุนขนส่งทุกอย่างก็ขึ้นตามหมด ทำให้สินค้าต่างๆ ราคาขึ้นยกแผง

แล้วจีนรอดมาได้ยังไง? คำตอบอาจอยู่ที่ระบบการผลิตแบบค่อนข้างรวมศูนย์ของจีน และแนวทางการผลิตใช้ในประเทศของจีน

จีนในปัจจุบันเป็นระบบตลาดก็จริง แต่รัฐก็มีอำนาจในการแทรกแซงเศรษฐกิจสูงมาก ไม่แปลกที่รัฐบาลจีนจะลงมาบริหารการผลิตให้เหมาะสม เพื่อให้สินค้าและบริการต่างๆ ในภาพรวมไม่ขาดตลาดจนราคาขึ้น(ยังไม่นับว่าจีนน่าจะสามารถตั้งเพดานราคาได้ไม่ยากด้วย เพราะรัฐบาลมีอำนาจเบ็ดเสร็จ)

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ การที่จีนเป็นประเทศที่ผลิตของแทบทุกอย่างใช้เองอยู่แล้ว ตั้งแต่สินค้าเกษตร สินค้าบริโภคทั่วไป ยันอุปกรณ์ไฮเทค ซึ่งสิ่งที่จีนนำเข้าหลักๆ ก็จะมีแค่พวกพลังงานหรือน้ำมันเท่านั้นที่จีนผลิตเองไม่ได้ (แต่จีนก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้นไปตลอด เพราะจีนเร่งขยายการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาพลังงานจากภายนอกอย่างต่อเนื่อง)

การที่ทุกอย่างผลิตในจีน จึงทำให้ไม่ต้องมีการนำเข้าอะไร ไม่ต้องขนส่งไกลๆ กันข้ามประเทศ และเนื่องจากไม่ต้องขนส่งไกล ผลกระทบด้านราคาสินค้าอันเนื่องมาจากค่าขนส่งที่ขึ้นไปพร้อมราคาน้ำมัน มันก็มีน้อยถ้าเทียบกับประเทศที่ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้า

ซึ่งตรงนี้สำคัญ เพราะลองมองเทียบดีๆ แม้แต่ประเทศไทยเราก็ถือว่าเงินเฟ้อน้อยแล้วถ้าเทียบกับประเทศตะวันตก เพราะส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราผลิตสินค้าเกษตรบริโภคเองในประเทศ พวกสินค้าบริโภคทั่วไปก็เช่นกัน ต่างจากประเทศตะวันตกที่ของพวกนี้ปกติเขานำเข้ากันทั้งนั้น เวลาค่าขนส่งเพิ่ม มันเลยดันราคาของพวกนี้ขึ้นสูง

หรือถ้าไปดูญี่ปุ่น เราก็จะเห็นว่ามันคล้ายๆ จีน เงินเฟ้อก็จริง แต่น้อย ซึ่งไปดูนิสัยคนญี่ปุ่น เราก็จะเห็นนิสัยการบริโภคสินค้าภายในประเทศเป็นหลัก

พูดง่ายๆ เงินเฟ้อคราวนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะที่โลกมันเชื่อมกันด้วยการค้าระหว่างประเทศ ทำให้คนในหลายพื้นที่นิยมบริโภคของนำเข้าเพราะมันราคาถูกกว่า ซึ่งไม่แปลกเลยที่บรรดาชาติยุโรปที่เศรษฐกิจเจริญ จะแทบไม่ทำการผลิตสินค้าเกษตรเอง ของพวกนี้นำเข้ามาจากประเทศที่พัฒนาการทางเศรษฐกิจต่ำกว่าทั้งนั้น พวกสินค้าบริโภคก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเฟอร์นิเจอร์ ยันสมาร์ทโฟน พวกยุโรปก็ไม่ได้ผลิตเอง ใช้วิธีนำเข้าทั้งหมด

พอการบริโภคในประเทศมันพึ่งพาการนำเข้าเยอะๆ เวลาราคาน้ำมันขึ้นพรวดไม่หยุด ราคาสินค้าต่างๆ ก็ย่อมขึ้นไปตามต้นทุนขนส่งที่มากขึ้นไม่มีอะไรซับซ้อนเลย

ย้อนกลับมาดูจีน การที่จีนจงใจจะผลิตแทบทุกอย่างใช้เอง จริงๆ ไม่น่าใช่เรื่องของการพยายามป้องกันเงินเฟ้อแต่เป็นเพราะจีนต้องการจะผลิตทุกอย่างใช้เองเพื่อทำให้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจส่งผลกับประเทศตัวเองน้อยที่สุด หรือพูดให้ตรงคือ จีนทำแบบนี้เพราะจีนคาดว่าการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา ยังไงมันก็จะเกิดขึ้นในการต่อสู้แย่งชิงการเป็นผู้นำโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จีนก็เลยทำระบบเศรษฐกิจที่ป้องกันความเสียหายจากการคว่ำบาตรที่ว่านี้มาตั้งแต่แรก เพราะนั่นจะทำให้อเมริกาไม่สามารถคุมจีนได้ผ่านการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

แต่ก็นั่นเอง ผลดีของมันโดยบังเอิญก็คือทำให้ระบบเศรษฐกิจจีนเป็นเหมือนป้อมปราการที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง และปัจจัยที่ส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจโลกสารพัดมันถึงทำอะไรจีนไม่ได้

และย้อนกลับไปสักสิบกว่าปีก่อน เราต้องไม่ลืมว่าวิกฤตเศรษฐกิจใหญ่ของโลกรอบที่แล้ว จีนก็แทบไม่เป็นอะไรเลย และการที่จีนไม่ล้มตอนนั้นเหมือนประเทศอื่นๆ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากนั้นไม่นาน จีนถึงกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกและท้าชนอเมริกาได้

อ้างอิง