นิยามใหม่ BrandThink มุ่งสู่การเป็น Hybrid Content Creator เพื่อสร้างสะพานสู่ความเปลี่ยนแปลง

- Release Date: 9 April 2023

โลกแห่งคอนเทนต์ ณ วันนี้มีความหลากหลายและแตกต่างจากยุคแรกเริ่มมาก เพราะคอนเทนต์กลายเป็นทุกอย่าง ‘Content is Everything’ และอยู่ในทุกๆ ที่ ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในแพลตฟอร์มออนไลน์อีกต่อไป
ยิ่งถ้ามองในแง่ของแบรนด์ที่สื่อสารกับ Customer ก็ไม่ได้เจาะไปที่ Mass Media หรือการ Personalization แบบเดิมๆ แต่มุ่งไปที่ Community มากขึ้น
BrandThink ซึ่งเป็น Multi-Channel Network จึงได้นิยามตัวเองใหม่ ในฐานะ Hybrid Content Creator Company ที่พร้อมปรับตัวเพื่อทำงานอย่างผสมผสานและสร้างสรรค์
เอกลักญ กรรณศรณ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ BrandThink และ Film Director แห่ง BrandThink Cinema บอกเล่าว่า Content Creator ยุคใหม่ต้องไฮบริด เพราะสิ่งรอบตัวเราทุกวันนี้ไฮบริดไปหมดแล้ว ทั้งการแบ่งเซกเมนต์ (segmentation) ของคอนเทนต์ที่มีหลากหลาย และความท้าทายในการสร้างคอนเทนต์ให้ลงตัวกับแชนเนลต่างๆ ที่มีมากมายเต็มไปหมด
“ผมคิดว่าการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในยุคปัจจุบันและอนาคตอาจจะไม่ได้ง่ายนัก เราอาจจะต้องเป็นครีเอเตอร์ที่เร็วขึ้น ไวขึ้น รู้รอบด้านมากขึ้น และ integrate ข้อมูลต่างๆ ได้เยอะขึ้น วันนี้ทาง BrandThink ก็เลย redefine ทุกด้านที่เราทำ ตั้งแต่เรื่องของโปรดักชั่น พับลิชเชอร์ เอเจนซี เอนเตอร์เทนเมนต์ และในส่วนของแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็น 5 ด้านที่เรากำลังขับเคลื่อน และเป็นส่วนที่ยึดโยงกับความเชื่อภายในองค์กร
“ในการเป็น Hybrid Content Creator Company เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน โฟกัสเรื่องงานคุณภาพ และสุดท้ายก็คือการ conversion การสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริงในการนำเสนอให้กับทุก business ที่เราทำ”
หากแบ่งแกนธุรกิจหลักของ BrandThink จะประกอบด้วย 3 แกน คือ Content, Commercial และ Community ภายใต้แต่ละยูนิตซึ่งขับเคลื่อนมานานหลายปีและจะเดินหน้าต่อไปในอนาคต ภายใต้สโลแกน ‘Tomorrow is Now’
- 1. ใต้ร่ม BrandThink คือ ธุรกิจโปรดักชั่นเฮาส์ High Quality Video ที่เปิดมานาน 15 ปี ควบรวมกับงานดิจิทัลออนไลน์ที่เปิดมากว่า 6 ปี และสวมวิธีคิดแบบ Creative Thinking ของบริษัท Agency เข้าไป ทำให้สามารถสร้างงานที่ตอบโจทย์การสื่อสารอย่างรอบด้าน ทั้งในรูปแบบธุรกิจ End-to-End และแคมเปญต่างๆ ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์ในแชนเนลต่างๆ ที่จะตอบสนองความสนใจอันหลากหลายของเหล่า Audience ได้แก่
Sauce ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘เรื่องราวกินได้’ และเชื่อมโยงผู้คนที่อยู่ในระดับท็อปของ Food Chain โดยในปีนี้มีเป้าหมายจะจัด Food Festival และเปิดตัวโปรเจกต์ Sauce NFT สำหรับคนรักอาหารและสนใจด้านเทคโนโลยี
Moody ที่มีสโลแกนว่า ‘พื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้ตัวคุณข้างในได้เติบโต’ โฟกัสการเข้าถึงผู้คนในระดับ mentality เพราะว่าโลกยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความหลากหลาย และเราเชื่อว่าผู้คนต้องการสื่อหรือคอนเทนต์ที่ทำความเข้าใจในตัวของพวกเขา
Localry ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘รากเหง้าเล่าอนาคต’ พูดถึงประวัติศาสตร์ด้วยความเชื่อว่าการรับรู้และเข้าใจเรื่องราวในอดีต จะช่วยให้เราก้าวไปในอนาคตได้อย่างมั่นคงและถูกทิศทางมากขึ้น
Candy เป็นแชนเนลน้องใหม่ในคอนเซ็ปต์ ‘Connect the Pops’ ที่จับมือกับสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง ONEE โดยมีเป้าหมายเพื่อจะเชื่อมโยงคนที่ชอบ Pop Culture เข้าด้วยกัน และคาดหวังว่าจะทำให้คนในหลายๆ เจเนอเรชั่นมีโอกาสทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้นผ่านแชนเนลนี้

- 2. Thinkster ซึ่งเป็น Content Creator Network ภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า Create, Connect and Earn มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนและเสริมสร้างโอกาสให้แก่คอนเทนต์ครีเอเตอร์แบบไม่มีพรมแดน และมี Feature ที่น่าสนใจ เช่น
Job Matching เชื่อมต่อแบรนด์กับคอนเทนต์ครีเอเตอร์เข้าด้วยกัน
Creator Portfolio เป็นฟีเจอร์ที่ดึงโซเชียลมีเดียอันหลากหลายของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้มารวมอยู่ในที่เดียวกัน และสามารถ customize สิ่งต่างๆ ได้ด้วย
Campaign Co-Creation คือฟีเจอร์ที่จะเป็นมากกว่า petition เพราะจะเปิดให้ครีเอเตอร์รวมตัวสร้างคอนเทนต์ร่วมกันได้ โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขในการ conversion ของตัวเองในการระดมทุนได้
Thinkster Academy คือคลาสเรียนออนไลน์ที่จะสนุกและไม่น่าเบื่อ เพราะใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิดีโอของ BrandThink เข้าไปถ่ายทำ

- 3. BrandThink Cinema ธุรกิจน้องใหม่ที่เป็นไฮไลต์ในงาน BrandThink Open House ซึ่งจัดขึ้นเมื่อ 24 มีนาคมที่ผ่านมา มีเป้าหมายในการสร้างโอกาสและปรับสมดุลของระบบนิเวศในโลกภาพยนตร์บ้านเราโดยโฟกัสที่ Creative Marketing เพื่อทำการตลาด พีอาร์ และหารายได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงด้าน Theatrical อย่างเดียว แต่อาจสร้างโมเดลความร่วมมือกับแบรนด์หรือพาร์ทเนอร์ต่างๆ และมีการแบ่งความสนใจออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
Publisher คือ การสร้างคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อซัพพอร์ตผู้คนที่อยู่ในวงการและโปรเจกต์ต่างๆ ที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และ ecosystem แบบใหม่ที่จะทำให้ทั้งวงการเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่สตูดิโอใดสตูดิโอหนึ่ง
Community คือ การเชื่อมโยงคนทำหนังรุ่นใหม่ๆ ที่มีจำนวนมาก แต่ไม่มีช่องทางจะนำเสนอหรือโปรโมตผลงาน ให้มารวมอยู่ที่เดียวกัน
Studio มีทั้งส่วนที่เป็นการรับผลิตงานและส่วนที่ BrandThink Cinema ผลิตเอง โดยงานที่รับผลิตในปีนี้มีโปรเจกต์ร่วมกับ TenCent WeTV ป๊อปแชนเนล และ Netflix ส่วนผลงานที่ผลิตเองมีแนวคิดหลักที่การซัพพอร์ตครีเอเตอร์ให้มีอิสระทางความคิดสูงสุด โดยมุ่งเน้นประเด็นที่มีความ Local แต่สามารถที่จะไปต่อได้ในระดับ Global ซึ่งปีนี้มีโปรเจกต์ไลน์อัปอยู่หลายตัว
- โปรเจกต์ที่ 1: 5th Round สารคดีขนาดยาวที่พูดถึงเรื่องนักมวยในยกที่ 5 ที่ชะตากรรมของนักมวยไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขา
- ปรเจกต์ที่ 2: Coin Digger ซีรีส์ว่าด้วยคริปโตเคอร์เรนซีเรื่องแรกในเมืองไทย ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
- โปรเจกต์ที่ 3: Red Life รัก ละ เลย ภาพยนตร์ขนาดยาว บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ ‘คนที่ถูกลืม’ และเป็นหนังใน Genre ที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปีในไทย คือ Drama Teen Tragedy
