BrandThink Cinema ตบเท้าเข้าร่วม CREATIVE TALK CONFERENCE 2023 ชวนสนทนาเรื่องราวการทำงานที่เริ่มด้วย Passion ขับเคลื่อนฝันจนกลายเป็นภาพยนตร์ ใน Session ‘RedLife’ from BrandThink Cinema – When passion is a reason Curated by BrandThink

มากกว่า 15 ปีในฐานะบริษัทผู้ผลิตสื่อภาพยนตร์โฆษณา ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ปัจจุบัน BrandThink ก้าวเข้าสู่สนามคอนเทนต์อย่างเต็มตัว ผลักดันการทำงานด้าน Commercial Agency ควบคู่ไปกับการสร้าง Community ของกลุ่มครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ‘RedLife’ โปรเจกต์ใหม่ในฐานะภาพยนตร์เรื่องแรกของบริษัทที่กำลังจะเข้าสู่วงการภาพยนตร์ไทยในช่วงปลายปีนี้

ใน session นี้ เอกลักญ เผยว่า BrandThink มองเห็น ‘โอกาส’ และ ‘ตลาด’ ที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประกอบกับความเชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อโฆษณาซึ่งเป็นพื้นฐานเดิมของบริษัทที่สั่งสมประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และคุณภาพการทำงานมาอย่างยาวนาน จึงทำให้ตัดสินใจเข้าสู่สนามนี้ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้าง ‘The New Ecosystem’ ให้กับวงการภาพยนตร์, ซีรีส์ และสารคดีไทย

RedLife คือโปรเจ็คหนังรัก Feel Bad เรื่องใหม่ของ BrandThink Cinema กำกับภาพยนตร์โดย เอกลักญ กรรณศรณ์ ที่ฉายภาพความเหลื่อมล้ำในสังคมเมืองและความเป็นคนชายขอบของเมืองใหญ่ที่ใครๆ ต่างมีความฝัน ผลงานชิ้นนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังแพสชั่นของทีมงาน BrandThink ที่เป็น Long Form Content เรื่องแรกของบริษัท

ในขณะที่ผู้บริโภคสื่อส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับ ‘Short Form Content’ มากกว่า จึงเป็นโจทย์สำคัญของคนทำคอนเทนต์ ซึ่ง จักรพันธุ์ ยอมรับว่าความท้าทายก็คือจะทำอย่างไรในภาวะที่ผู้รับสารต้องการเนื้อหาที่สั้น กระชับ รวดเร็ว แต่ต้องถูกต้อง

ขณะเดียวกัน ยุทธนา ซึ่งรับผิดชอบด้านการสื่อสารกล่าวว่า BrandThink Cinema เริ่มต้นจาก ‘คนดูหนัง’ สู่การเป็น ‘คนสร้าง’ จึงได้หยิบ Pain Point สำคัญในฐานะผู้ชม มาปรับในการทำงาน นั่นคือการเข้าใจในเรื่องของ ‘Mutual Interest’ หรือความสนใจร่วมระหว่างผู้ดูและสิ่งที่ภาพยนตร์ต้องการจะสื่อ เช่นซีรีส์ The Glory อยู่ในบริการสตรีมมิ่ง Netflix

เพราะอะไรซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ถึงเป็นที่นิยมในระดับโลก?

คำตอบง่ายๆ คือ เราทุกคนล้วนแต่เคยเจอประสบการณ์การบุลลี่ในชีวิตวัยเรียน ทั้งเป็นผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ และผู้เฉยเมยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่คือ ‘ความสนใจร่วม’ ที่ผู้ชมต่างสามารถสัมผัสความรู้สึก ทำให้ ‘อิน’ กับซีรีส์เรื่องนี้ 

‘ความสนใจร่วมกัน’ เปรียบเหมือนการ Add Friend หรือการเพิ่มเพื่อนในโซเชียลมีเดีย หากไม่มีความสนใจที่ตรงกัน หรือมีเพื่อนร่วมกัน การ Accept Request ก็จะยากขึ้นเช่นกัน นี่คือจุดเชื่อมโยงระหว่างหนังและคนดู จนได้กลายมาเป็นกุญแจและหัวใจในการทำงานของ BrandThink Cinema

เพราะเชื่อว่าคุณค่าและสิ่งสำคัญของภาพยนตร์ไม่ได้วัดกันที่รายได้หรือกำไรหลังการเข้าฉาย BrandThink จึงให้ความสำคัญกับเนื้อหาและบริบทที่อยู่แวดล้อม RedLife ที่นำไปสู่การสร้างบทสนทนาให้แก่ผู้คนในสังคม เป็นประเด็นที่ถูกส่งต่อมาจากหนัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก สังคม การเมือง วัฒนธรรม

การทำงานของ BrandThink มีแพสชั่นเป็นสารตั้งต้น แต่ในโลกของธุรกิจ แค่แพสชั่นไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง จึงต้องมีการสร้างความสมดุลระหว่างแพสชั่นและการตลาดที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัท

จากการทำงานและคลุกคลีกับลูกค้าหลากหลายวงการ ทำให้ BrandThink เห็นมุมมองใหม่ๆ อย่างความต้องการของลูกค้าที่อยากสร้างภาพยนตร์ยังมีอยู่มาก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเขาไม่รู้วิธีการทำ นี่แหละคือหน้าที่ของบริษัท ที่จะเชื่อมโยงแบรนด์และคอนเทนต์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ให้ผลงานมีคุณค่าและมีรายได้ควบคู่กันไป

นอกจากนี้ BrandThink Cinema ยังมีผลงานอื่นที่จ่อคิวรอให้ผู้ชมได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็น ‘5th Round’ สารคดีที่ถ่ายทอดเบื้องหลังวงการมวย, การหยิบผลงานอมตะอย่าง ‘อินทรีย์แดง’ มาตีความใหม่ รวมไปถึงการทำให้ ‘ลับแลแก่งคอย’ นวนิยายรางวัลซีไรต์มีชีวิตโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็คต์อื่นอีกมากมาย ติดตามผลงานของ BrandThink Cinema ได้ เร็วๆ นี้