ถอด 4 บทเรียน สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่จาก ‘ประสบการณ์จริง’ ของ BrandThink – เทพลีลา – อาตี๋รีวิว

- Release Date: 27 September 2023
ครีเอเตอร์ยุคนี้และยุคต่อๆ ไป มีเพียงแค่ ‘ความครีเอทีฟ’ (Creative) และ ‘ซิกเนเจอร์’ (Signature) จะเพียงพอหรือไม่? เพราะปัจจุบันมีช่องทางและแฟลตฟอร์มหลากหลาย พร้อมแจ้งเกิดดาวดวงใหม่ตลอดเวลา
หากคำตอบ คือ ไม่
แล้ว ‘อะไร’ ที่จะทำให้พวกเขาสามารถอยู่รอดในสนามแข่งขันที่ดุเดือดเช่นนี้
4 บทเรียน สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่จาก BrandThink – เทพลีลา – อาตี๋รีวิว
ถอด 4 บทเรียนจาก 4 ครีเอเตอร์ชื่อดัง ผู้มากประสบการณ์ในวงการคอนเทนต์แฟลตฟอร์มต่างๆ ได้แก่ ลักญ–เอกลักญ กรรณศรณ์ Managing Director แห่งแพลตฟอร์ม BrandThink, เหว่ง–ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ และ เติ้ด–ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี สองผู้ร่วมก่อตั้งช่องเทพลีลา พร้อมด้วย ตี๋โอ–วุฒิพงษ์ ลิขิตชีวิต CEO & Founder บริษัท อาตี๋ มีเดีย ที่ร่วมแชร์มุมมองจากประสบการณ์ในวงสนทนา ‘How to Glow & Grow the Influencer-Creator Economy 2024+ ส่องแสงและเติบโต ท่ามกลางการแข่งขัน เศรษฐกิจครีเอเตอร์ 2024+’ จาก Thailand Influencer Awards 2023 (TIA)
1. อยากเป็นครีเอเตอร์ ต้องลงมือทำทันที-เข้าใจความแตกต่างของแต่ละแพลตฟอร์ม
นี่ไม่ใช่สูตรลัด แต่คือสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อนจะจะเป็นครีเอเตอร์ กับดักแรกที่ครีเอเตอร์ทุกคนต้องเคยเจอ นั่นคือ ‘การคิดมาก’ และกลัวความผิดพลาด แต่ในโลกความเป็นจริง ไม่มีครีเอเตอร์คนไหนไม่เคยพลาด หากไม่ลองลงมือทำก็ไม่มีวันรู้ผลลัพธ์ที่แท้จริง
ยิ่งยุคที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิต แพลตฟอร์มมากมายถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต่างกันไป ในฐานะครีเอเตอร์ต้องมีความเข้าใจความแตกต่างบนโลกออนไลน์ และที่สำคัญต้องตอบให้ได้ว่า ‘เราคือใคร’ ทำงานให้เหมือนกับว่าคนจะดูหรือเสพงานของเราแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องงัดเอาไม้เด็ดทุกอย่างที่มีออกมาโชว์ เพื่อแสดง DNA ที่แตกต่างจากคนอื่นออกมาให้ได้ ไม่ต้องไม่หยุดพัฒนาตัวตนอยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้น หากไม่เริ่มลองผิดลองถูก

2. เป็นครีเอเตอร์ต้องมีความน่าเชื่อถือ
‘ความน่าเชื่อถือ’ เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการเป็นครีเอเตอร์ เมื่อเราเริ่มมีตัวตนบนโลกออนไลน์ คนดูหรือผู้ติดตามจำเป็นต้องรู้ว่าเราคือใครและข้อมูลที่นำเสนอถูกต้องหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบของครีเอเตอร์ที่มีต่อคนดู
แม้ในโลกออนไลน์ ครีเอเตอร์จะไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์แบบ Face-to-face เพื่อสร้างความไว้ใจกับผู้ชมได้โดยตรง แต่ฟังก์ชันและฟีเจอร์ต่างๆ ของแพลตฟอร์มที่เราใช้งานก็เป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมที่จะสร้างความสนิทสนมกับคนดู เช่น การพูดคุยกับผู้ชมระหว่าง Live สด สามารถทำให้คนดูหลายคนรู้สึกสนิทกับครีเอเตอร์ได้ และเป็นช่องทางการสำรวจความคิดเห็นต่างๆ จากผู้ที่ติดตามเราจริงที่รวดเร็วที่สุด และสามารถปรับไปประยุกต์ใช้ได้จริงที่สุดอีกด้วย
3. เลือกแพลตฟอร์มที่มีกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง
เทรนด์วิดีโอสั้น (Short video) ยังคงมาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง TikTok หรือฟีเจอร์ Shorts ใน YouTube การที่ครีเอเตอร์จะตัดสินใจเลือกเข้าไปในแพลตฟอร์มใดก็ตามจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหากเลือกแพลตฟอร์มผิด คอนเทนต์ของเราอาจไม่ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้น การประเมินกลุ่มเป้าหมายของตัวเองว่าอยู่ที่ไหน (อยู่ในแพลตฟอร์มใด) จึงเป็นเรื่องที่ครีเอเตอร์ต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรกๆ นอกจากนี้ การทำคอนเทนต์ในช่วงที่แพลตฟอร์มนั้นๆ กำลังเป็นที่นิยมก็ถือเป็นโอกาสทองสำหรับการสร้างยอดเอนเกจเมนต์ให้คอนเทนต์ของเราให้เป็นที่รู้จัก และทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักเรามากขึ้นด้วยเช่นกัน
4. ครีเอเตอร์ควรรับฟัง ยอมรับความผิดพลาด และแก้ไขทันที
มายด์เซ็ต (Mindset) สำคัญสำหรับครีเอเตอร์ในการผลิตคอนเทนต์เพื่อผู้ติดตามหรืองานลูกค้า นั่นคือ การยอมรับและแก้ไขในสิ่งที่ผิดผลาดของตัวเองทันที เป็นวิธีการไม่ดูถูกคนดูและลูกค้าของตัวเองที่จริงใจที่สุด
มายด์เซ็ตนี้จะทำให้ตัวครีเอเตอร์ให้ความสำคัญเรื่องความถูกต้องของข้อมูล มีความรับผิดชอบต่อผู้ชมและลูกค้า และในบางครั้งการใช้เทคนิคการสื่อสารที่ตรงข้ามกัน เช่น การ ‘ตั้งใจ’ พูด Key message ผิด ก็เป็นกิมมิกที่ทำให้ผู้ติดตามจดจำและเชื่อใจแบรนด์ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ สิ่งที่เหล่าครีเอเตอร์ยุคใหม่ต้องรู้และความเข้าใจอีกประการที่สำคัญอีกประการ นั่นคือการยอมรับว่า ‘เราไม่ได้ทำงานคนเดียว’ เพราะปัจจุบันทุกคนต่างทำงานกับคนจำนวนมาก การสื่อสารด้วย ‘ภาษาเดียวกัน’ จึงเป็นเรื่องจำเป็น
อีกทั้งการทำงานที่ดี ครีเอเตอร์ควรจะต้อง ‘รอบรู้’ หมายถึงต้องรู้ภาพรวมของการทำงานควบคู่ไปกับการสื่อสารกับคนต่างกลุ่มให้ชัดเจน
สิ่งเหล่านี้นี่คือทักษะติดตัวสิ่งสำคัญที่เหล่าครีเอเตอร์จะรู้เพียงด้านเดียวไม่ได้อีกต่อไป